รีโนเวทบ้าน เก่าให้สวยเหมือนใหม่ ทำอย่างไร

บ้าน คือสถานที่พักอาศัยซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 สำหรับการดำรงชีวิต แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากให้บ้านดูสวย ดูใหม่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดี และ รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่บ้าน แต่พออยู่ไปนานหลายปี สภาพบ้านก็ต้องเสื่อมสภาพเป็นเรื่องธรรมดา ครั้นจะซื้อบ้านใหม่ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ในปัจจุบัน หนึ่งในวิธีที่จะทำให้บ้านดูใหม่ก็คือการ รีโนเวทบ้าน การรีโนเวทบ้านคือการปรับปรุงบ้านให้เป็นบ้านใหม่โดยไม่ต้องซื้อบ้านใหม่ เรียกได้ว่าเปลี่ยนบ้านที่ดูเก่า เป็นบ้านใหม่ได้ภายในไม่กี่วัน การรีโนเวทบ้านเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนจากของเก่า ให้กลายเป็นของใหม่ที่ดีและใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม แต่ก็ใช่ว่าบ้านทุกหลังจะเหมาะกับการรีโนเวท

1.กำหนดวัตถุประสงค์ของการรีโนเวท
ก่อนจะเริ่มการรีโนเวท จำเป็นต้องวางแผนและกำหนดวัตถุประสงค์ของการรีโนเวทก่อน ว่าจะรีโนเวทเพื่ออะไร และจะรีโนเวทบ้านแบบไหน เช่น อยากตกแต่งบ้านเก่าให้สวยหรืออยากปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่ เพื่อให้การรีโนเวทเป็นไปตามเป้าหมายและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยหลักๆ จะแบ่งประเภทการรีโนเวทบ้านได้ดังนี้
– ปรับปรุงบ้านทั้งหลัง
หากสภาพบ้านมีความเสียหายหรือเสื่อมสภาพจนไม่สามารถใช้งานต่อได้ ควรปรับปรุงและซ่อมบ้านทั้งหลังเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ปกติเหมือนเดิม

– ปรับปรุงบ้านบางส่วน
บางห้องอาจจะดูเสื่อมสภาพหรือไม่น่าดู โดยเฉพาะห้องน้ำ ยิ่งมีความเก่าและสกปรกก็จะยิ่งไม่น่าใช้ หรือดาดฟ้ารั่ว การปรับปรุงบางส่วนเฉพาะจุดก็เป็นวิธีที่ดี

– จัดแบ่งพื้นที่ใหม่
บางห้องอาจจะไม่ได้ใช้งานก็สามารถทุบทิ้งเพื่อเพิ่มพื้นที่หรืออาจจะแบ่งพื้นที่ใหม่เพื่อให้สะดวกสบายมากขึ้น เช่น ห้องน้ำมีขนาดเล็กเกินไปแต่มีห้องว่างที่ไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถยุบรวมกันและปรับปรุงห้องน้ำให้ใหญ่มากขึ้นได้

– ปรับโฉมบ้านให้สวยงาม
บางห้องอาจจะดูเก่าหรือไม่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบัน ก็สามารถปรับโฉมบ้านให้ดูทันสมัยและมีความสวยงามมากยิ่งขึ้นได้

2.รวบรวมข้อมูลและเลือกรูปแบบที่ต้องการรีโนเวทบ้าน
หลังจากกำหนดได้แล้วว่าจะรีโนเวทบ้านแบบไหนและระดับไหน ถัดมาก็คือรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการรีโนเวทบ้าน เช่น วัสดุที่ใช้ สเปคต่างๆ แบบบ้านสวยๆ จากอินเทอร์เน็ตหรือสามารถปรึกษาสถาปนิกซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและรีโนเวทบ้านก็ได้

3.ตรวจสอบสภาพจริงของบ้านและกำหนดแนวทางในการปรับปรุง
ก่อนจะเริ่มรีโนเวทบ้าน ควรเช็กให้ดีก่อนว่ามีส่วนไหนของบ้านยังใช้งานได้ดีหรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น และส่วนใดที่เสียหาย นอกจากนี้ควรทำเช็กลิสต์สำหรับโซนต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อดูว่าในแต่ละโซนนั้นจะปรับปรุงอะไรบ้าง เช่น โครงสร้าง การตกแต่ง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา

ทั้งนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งวิศวกรและสถาปนิก เพื่อให้การรีโนเวทบ้านนั้นเหมาะสมและไม่เกิดปัญหาภายหลัง

4.สรุปสิ่งที่ต้องการปรับปรุงและเนื้องานที่ต้องการจะทำ
หลังจากทำเช็กลิสต์แล้วก็สรุปเนื้องานว่าจะรีโนเวทส่วนใดบ้าง วิธีนี้ควรตรวจสอบให้แน่ชัด เนื่องจากขั้นตอนต่อไปจะเริ่มเตรียมงบประมาณในการรีโนเวทบ้าน หากยังกำหนดทิศทางและเป้าหมายไม่ชัดเจน อาจทำให้มีปัญหาระหว่างการรีโนเวทได้

5.เตรียมงบประมาณในการรีโนเวทบ้านให้เหมาะสม
ค่าออกแบบ หรือค่าจ้างวิศวกร สถาปนิก และผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและรีโนเวทบ้าน รวมไปถึงงานระบบไฟฟ้าและประปา
ค่าปรับปรุง

ค่าใช้จ่ายวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการรีโนเวทบ้าน รวมถึงค่าน้ำ ค่าไฟที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการรีโนเวทบ้าน และค่าดำเนินการปรับปรุง
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าปรึกษาวิศวกร ค่าปรึกษาสถาปนิกเกี่ยวกับงานก่อสร้าง ค่าเช่าที่เก็บอุปกรณ์และวัสดุในการรีโนเวทบ้าน และค่าดำเนินการขอปรับปรุงกับหน่วยงานราชการ (กรณีที่จำเป็น)

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าปรึกษาวิศวกร ค่าปรึกษาสถาปนิกเกี่ยวกับงานก่อสร้าง ค่าเช่าที่เก็บอุปกรณ์และวัสดุในการรีโนเวทบ้าน และค่าดำเนินการขอปรับปรุงกับหน่วยงานราชการ (กรณีที่จำเป็น)

6.เลือกวิธีการรีโนเวทบ้าน
การรีโนเวทบ้าน โดยหลักๆ แล้วจะแบ่งได้ 2 วิธีได้แก่
– Design-Bid-Build
ผู้ออกแบบกับผู้รับเหมาแยกกัน ทำให้เจ้าของบ้านตรวจสอบและปรับปรุงแบบได้ตรงตามความต้องการมากกว่า เพราะสถาปนิกจะเป็นผู้ร่วมออกแบบกับเจ้าของบ้าน กำหนดแบบและจัดงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างก่อนส่งงานให้กับผู้รับเหมาต่อไป
– Design & Build
ว่าจ้างผู้ออกแบบกับผู้รับเหมารายเดียวกัน วิธีนี้จะค่อนข้างสะดวกต่อเจ้าของบ้าน เนื่องจากมอบหมายหน้าที่ทุกอย่างให้กับผู้ออกแบบและผู้รับเหมา วิธีนี้จะเรียกว่า “Turn Key” มีข้อดีคือประหยัดเวลาและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตามวิธีนี้มีข้อเสียคือ เจ้าของบ้านจะไม่สามารถประสานงานกับผู้ออกแบบและผู้รับเหมาได้ หากเกิดปัญหาก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุดเหมือนกับการที่เราแจ้งผู้รับเหมาเอง

การรีโนเวทบ้านคือการชุบชีวิตให้บ้าน สภาพบ้านที่เก่า เสื่อมโทรม และชำรุดก็ควรจะรีโนเวทบ้าน เพื่อให้ใช้งานต่อได้อีกนานโดยไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านใหม่ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลามากกว่า

รีโนเวทบ้านอย่างไรให้คุ้มค่า ประหยัด เวลาและเงินในกระเป๋า

หากบ้าน มีอายุมากกว่า 40-50 ปีขึ้นไปก็อาจถึงเวลาที่จะรีโนเวทสัก แต่การรีโนเวทบ้านนั้นก็ใช้งบมากพอสมควร ดังนั้นจึงควรพิจารณาทุกอย่างให้ถี่ถ้วนก่อนแล้วค่อยลงมือทำ มาดูกัน ว่ามีประเด็นใดบ้างที่ต้องพิจารณาให้ดี เพื่อให้ผลลัพย์ของการ รีโนเวทบ้าน ครั้งนี้ออกมาสวยงามตรงใจและใช้เงินน้อยที่สุด

ถามความต้องการของตนเอง
จะรีโนเวทบ้านทั้งทีก็ต้องปราณีต นอกจากเสริมความแข็งแรงของตัวบ้านแล้ว สิ่งที่ควรทำคือถามตัวเองก่อนว่าอยากให้บ้านออกมาเป็นแบบไหน อย่างไร สีอะไร ฯลฯ จดรายละเอียดความต้องการออกมาให้มากที่สุด เพื่อที่จะนำมาประเมินว่าต้องทำอะไรบ้าง ใช้เงินประมาณเท่าไหร่ จะวางแผนต่อได้ง่าย ว่าขยับไปทางไหนจะดีที่สุด

หาทีมงานมืออาชีพ
การรีโนเวทบ้านนั้นก็คล้ายๆ การซ่อมแซมโครงสร้างของบ้านบวกกับตกแต่งบ้านใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความรู้เฉพาะทางและความชำนาญสูง ดังนั้น แนะนำให้ จ้างช่างดีกว่า เพื่อความสมบูรณ์ของงาน เพราะทีมงานรีโนเวทบ้านมืออาชีพสามารถให้คำแนะนำได้ตั้งแต่การวางแผน จัดการหน้างาน เดินเอกสาร ดูแลหลังจบงาน เรียกได้ว่าเสียเงินครั้งเดียวจบ

ตรวจความแข็งแรงของโครงสร้าง
การสำรวจตัวบ้านในพื้นที่ที่ต้องการปรับปรุงก่อน จะสามารถบอกได้ว่าโครงสร้างเสียหายมากแค่ไหน เพื่อให้ทราบว่าต้องเสริมตรงไหนดี ตัดตรงไหนออกได้บ้าง เริ่มตรงไหนก่อนตรงไหนหลัง เรียงลำดับการทำงานได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การ รีโนเวทบ้าน pantip ทำได้ตรงจุดมากขึ้น หากไม่ได้ตรวจความแข็งแรงให้ดีก่อนเริ่มรีโนเวท อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ในภายหลัง

วางแผนให้ครอบคลุม
หลังจากหาความต้องการของตันเองเจอแล้ว มีทีมงานเรียบร้อยแล้ว ตรวจโครงสร้างแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ต้องวางแผน ว่าจะทำอะไรก่อน ตรงไหนก่อน ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งถ้ามีทีมงานรีโนเวทบ้านมืออาชีพนี่จะช่วยได้มากเลย เพราะเค้าจะนำเอาความต้องการ ไปปรับปรุงให้สมบูรณ์และอุดช่องโหว่ในแผน ทำเราแผนของเราในตอนแรกนั้นแข็งแรงกว่าเดิมและพร้อมนำไปใช้งานได้จริง

ประเมินค่าใช้จ่าย
หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดครบแล้วก็จะทำให้ พอที่จะประมาณจำนวนเงินที่ต้องใช้คร่าวๆ ได้ ดังนั้นขั้นต่อมาเราก็ต้องมาดูว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นเหมาะสมหรือยัง หากมากไปก็อาจลดคุณภาพของวัสดุหรือตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้ หรือถ้าดูแล้วยังพอมีงบเหลือเราก็อาจนำไปเพิ่มคุณภาพของวัสดุบางส่วนให้ดีขึ้นได้

ขออนุญาตให้ถูกต้อง
แน่นอนว่าการจะเปลี่ยนแปลงหรือต่อเติมอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ต้องขออนุญาตจากทางราชการก่อน ดังนั้นหลังจากได้แผนการรีโนเวทบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ไปทำเรื่องกับทางเขตของตัวเองให้เรียบร้อยครับ รอให้เขตอนุมัติก่อนแล้วค่อยดำเนินการ เพราะไม่อย่างนั้นหากติดปัญหาอะไรขึ้นมาตอนเริ่มรี โน เวท บ้าน ราคาประหยัดไปแล้วอาจกลายเป็นปัญหาที่แก้ยากก็ได้

เก็บงานให้เรียบร้อย
หลังจากดำเนินการรีโนเวทบ้านเสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำหลังจากนั้นก็คือตรวจเช็คความเรียบร้อยของงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง ความเรียบร้อยของงานตกแต่ง งานเดินสายไฟ ท่อประปา การเก็บสี เก็บขอบบัว วางเฟอร์นิเจอร์ตามจุดต่างๆ เพื่อให้งานที่ออกมาสมบูรณ์สวยงาม และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง

จะเห็นได้ว่าการรีโนเวทบ้านนั้นแทบไม่ต่างจากการซื้อบ้านใหม่เลยแถมยังประหยัดเงินได้เยอะ เพราะหากต้องการซื้อบ้านใหม่ในสไตล์ที่ชอบ อาจต้องจ่ายเงินมากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นการรีโนเวทบ้าน ก็อาจลดรายจ่ายเหลือเพียงไม่ถึง 1 ล้านบาท เรียกได้ว่าการรี โน เวท บ้าน ยกพื้น เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว